วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

อานุภาพหลวงปู่ สู่โลกปัจจุบัน ตอน ผจญภัยกลางสายน้ำเชี่ยว


สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของชาวโลก จนกระทั่งมีฝรั่งนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ The Bridge over the River Kwai สะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ ที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยแรงงานของเชลยศึกสัมพันธมิตรจำนวนมากที่ญี่ปุ่นเกณฑ์มา ซึ่งส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟจะต้องผ่านแม่น้ำแควใหญ่ จึงมีการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้น ณ บริเวณตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนเสียชีวิตลง เล่ากันว่า ทางรถไฟสายนี้ใช้แรงงานและชีวิตเชลยศึก 1 ไม้หมอน ต่อ 1 ชีวิตเลยทีเดียว
􀀁ปัจจุบัน การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดบริการเดินรถบนเส้นทางสายนี้ทุกวัน และจัดรถไฟขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ-น้ำตก ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ซึ่งปรากฎว่ามีผู้คนเดินทางไปชมสะพานแห่งนี้เป็นจำนวนมาก และหนึ่งในจำนวนผู้คนที่เดินทางไปชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ก็คือแพทย์หญิงณัฐวรรณ พละวุฑิโฒทัย หรือหมอปอ ซึ่งขณะนั้นรับราชการอยู่ที่ โรงพยาบาลคำม่วง จ.กาฬสินธุ์

􀀁เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2551 บรรดาเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลคำม่วงเดินทางไปทัศนศึกษาสะพานข้ามแม่น้ำแคว ในเวลาประมาณ 17.30 น. บรรยากาศยามเย็นที่สดชื่นเย็นสบายและทิวทัศน์ที่สวยงาม มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดทำให้เธอและเพื่อนหมออีก 2 คน พากันเดินไปชมจนถึงกลางสะพาน เมื่อหมอณัฐวรรณมองลงไปใต้สะพาน เธอก็เห็นว่ามีกระแสน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากเขื่อน ทำให้น้ำในแม่น้ำแควมีระดับสูงขึ้นและไหลเชี่ยวกราก

􀀁ทันใดนั้น พวกเธอก็ได้ยินเสียงหวูดรถไฟดังไล่มา ทุกคนจึงรีบหลบเข้าไปตรงจุดพักคนข้างรางรถไฟ เธอกับเพื่อนอีกคนหนึ่งคือหมอณัฐชัยยืนอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเสียงหวูดรถไฟดังกระชั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รถไฟแล่นเฉี่ยวพวกเธอไป หมอณัฐวรรณรู้สึกว่ามีอะไรมาฟาดที่หัวอย่างแรง ทำให้เธอกับหมอณัฐชัยกระเด็นตกจากสะพานดิ่งลงกระแทกกับพื้นน้ำ
􀀁หมอณัฐวรรณเล่าว่า หลังจากนั้นเธอก็วูบไป รู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์อันเลวร้ายที่มีมัจจุราชรออยู่เบื้องหน้า เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังจมและพยายามดิ้นรนว่ายน้ำพยุงตัว มีคนมาเล่าให้เธอฟังภายหลังว่า พวกชาวบ้านตะโกนโหวกเหวกร้องเรียกเรือที่เหลืออยู่ลำสุดท้ายบนลำน้ำให้เข้า มาช่วยเธอ หัวเรือเข้ามาถึงหมอณัฐชัยก่อน แต่โชคร้ายที่กระแสน้ำซัดเขาให้ห่างออกจากเรือและดูดให้จมดิ่งลงไปจนไม่ สามารถช่วยได้ ในเวลาเดียวกัน คนขับเรือก็เหลือบเห็นมือของหมอณัฐวรรณที่โผล่ขึ้นมาก่อนจะจมดิ่งตามหมอณัฐชัยลงไป คนขับเรือคว้ามือเธอไว้ทัน แล้วลากขึ้นมาบนเรือได้ และพยายามช่วยให้เธอได้สติเร็วที่สุด

􀀁เมื่อเริ่มรู้สึกตัว เธอจำอะไรไม่ได้เลย งงว่าตัวเองอยู่ที่ไหน มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ทำไมมีผู้คนมุงเต็มไปหมด ต้องใช้เวลาสักครู่กว่าจะเรียกความจำคืนมาได้ พอรู้ตัวก็รีบคลำสร้อยที่ห้อยเหรียญหลวงปู่ทันที นึกขอบพระคุณที่หลวงปู่ช่วยคุ้มครอง หลังจากนั้นก็มีคนนำเธอส่งโรงพยาบาล เพื่อนของเธอที่ตกสะพานไปด้วยกัน หลังจากผ่านการค้นหาเป็นเวลา 36 ชั่วโมง ถึงได้เจอในสภาพที่เป็นศพไปแล้ว

􀀁เหตุการณ์ครั้งนี้ มีแต่คนถามว่าเธอรอดมาได้อย่างไร สำหรับตัวเธอเองคิดว่า ไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะทำให้เธอรอดจากความตายกลางสายน้ำเชี่ยวได้ นอกจากหลวงปู่ที่เธอแขวนเหรียญท่านติดไว้กับตัว เธอเห็นแล้วว่า เธอกับเพื่อนยืนอยู่ติดกัน ณ ตำแหน่งเดียวกัน จมน้ำห่างกันนิดเดียว เพื่อนตายแต่เธอกลับรอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ และแทบไม่บาดเจ็บอะไรเลย มีแค่หัวโนกับถลอกนิดหน่อย
􀀁ด้วยบุญทั้งหลายที่เธอทำมาตั้งแต่เข้าวัดพระธรรมกายจาก 5 ขวบ จนถึงปัจจุบัน และบุญที่ทำเนื่องกับหลวงปู่ผู้เป็นทักขิไณยบุคคลนับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งมีใจผูกไว้กับหลวงปู่ตลอดมา ทำให้ในที่สุดหลวงปู่ก็คุ้มครองเธอให้รอดชีวิตเป็นอัศจรรย์ แม้ห้วงน้ำเชี่ยวใต้เส้นทางรถไฟสายมรณะก็ไม่อาจกลืนกินชีวิตของเธอได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น